เขากินอะไรกันบนเรือไททานิก
.
นักหลงใหลอาหารนั้นมักหลงใหลในการเห็นรายการอาหารหรือเมนูด้วย พวกเรา ‘นวัตกิน’ ก็เหมือนกันครับ วันนนี้นึกถึงรายการอาหารจากหลายร้านหลายแหล่ง แต่ที่นึกแล้วอยากเล่าสู่กันฟังคือเรื่องนี้ รายการอาการในเรื่องไททานิกครับ
.
ว่าด้วยรายการอาหารของเรือ RMS Titanic ในตำนานที่ยังเหลือรอดมาจนปัจจุบันนั้น หลักฐานนี้ทำให้เราได้ข้อมูลที่ช่วยเติมเต็มรายละเอียดของผู้คนในการเดินทางครั้งนั้น
แน่นอนว่าผู้โดยสารชั้น 1 (First class) จะต้องได้รับความพิเศษมากกว่ส พวกเขามีอาหารหรูที่จัดเตรียมไว้อย่างครบถ้วนทั้ง 3 มื้อหรือหากต้องการความพิเศษมากขึ้นก็เพียงจ่ายเงินเพิ่มอีกนิดหน่อย เขาและเธอเหล่านั้นก็จะได้อิ่มอร่อยกับอาหารตามสั่ง (à la carte ) จากเมนูของภัตตาคารไททานิกและคาเฟปารีเซียน (Café Parisien) โดยมื้อเช้าและกลางวันเป็นอาหารแบบบุฟเฟต์ ส่วนมื้อเย็นเป็นอาหารชุดหลายรายการ
ขณะที่ผู้โดยสารในชั้น 2 และชั้น 3 มีอาหารตัวเลือกลดลงตามลำดับ โดยเฉพาะคนที่โดยสารในชั้นล่างหรือชั้นท้องเรือ (steerage) ที่มีค่าโดยสารถูกที่สุด
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ว่าพวกเขาทานอะไรนั้น กดดูตามรูปเลยครับ
ไอศกรีม
.
กล่าวกันว่าบนเรือไททานิกมีไอศกรีมตระเตรียมไว้จำนวนมากถึงราว 1,200 ควอร์ต (300 แกลลอน หรือราว 1,135 ลิตร) แต่ก็มีความหลากหลายกันไปตามฐานะทางสังคม กล่าวคือ ผู้โดยสารชั้น 1 จะได้รับการเสิร์ฟไอศกรีมฝรั่งเศสเป็นของหวานในมื้อค่ำ
ส่วนผู้โดยสารชั้น 2 และชั้น 3 จะได้กินไอศกรีมอเมริกันแทน ทั้งนี้ ไอศกรีมฝรั่งเศสมีรสชาติดีกว่าและมีน้ำหนักของเนื้อไอศกรีมมากกว่าไอศกรีมอเมริกัน นอกจากนี้การใช้ไข่เป็นส่วนผสมยังทำให้ไอศกรีมฝรั่งเศสมีความเหนียวข้นคล้ายคัสตาร์ด
องุ่น
.
องุ่นกว่า 1,000 ปอนด์ (ราว 450 กิโลกรัม) มีไว้รับรองผู้โดยสารบนเรือลำนี้อย่างเต็มที่ อาหารทั้ง 3 มื้อของผู้โดยสารชั้น 1 จะมีผลไม้ซึ่งรวมถึงองุ่นสดเสิร์ฟให้ด้วย ขณะที่ผู้โดยสารอีก 2 ชั้นจะได้กินผลไม้ในมื้อค่ำ แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือวิธีการกินองุ่นของแต่ละชั้น
กล่าวคือ ผู้โดยสารในชั้น 2 ใช้มือปลิดองุ่นจากพวงมากิน ขณะที่ผู้โดยสารในชั้น 1 จะได้รับแจกกรรไกรเล็กๆ เพื่อตัดผลองุ่นเป็นลูกๆ จากพวงใส่จานก่อนจะค่อยๆ กินอย่างผู้มีมารยาทดี มีหลักฐานว่าบริษัทไวท์สตาร์ไลน์ซึ่งเป็นเจ้าของเรือไททานิกเตรียมกรรไกรตัดองุ่นสำหรับเรือลำดังกล่าวไว้ถึง 1,500 เล่ม
ไข่
.
ผู้โดยสารทุกชั้นจะได้กินไข่ทุกวันซึ่งส่วนใหญ่มักเสิร์ฟเป็นอาหารมื้อเช้า แต่ก็อาจมีเมนูไข่ในมื้ออื่นๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ ก่อนเรือไททานิกออกจากท่าเรือเซาแทมป์ตันมีหลักฐานว่ามีการนำไข่สด 40,000 ฟองขึ้นไปบนเรือ
ผู้โดยสารชั้น 1 มีไข่ให้กินได้อย่างอุดมสมบูรณ์ มื้อเช้ามีทั้งไข่ดาว ไข่ดาวน้ำ ไข่กวนและไข่ต้ม ขณะที่มื้อเที่ยงยังมีเมนูชื่อ Egg à l’Argenteuil ที่เป็นไข่กวนปรุงกับหน่อไม้ฝรั่ง (asparagus) ส่วนผู้โดยสารชั้น 2 และชั้น 3 จะได้รับไข่ดาวกับแฮมย่างในมื้อเช้า ทว่า เราไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับเมนูชั้น 3 ทราบเพียง “แฮมกับไข่” โดยไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการปรุงอาหารเมนูนี้เลย
ปลาและอาหารทะเล
.
บนเรือไททานิกมีปลาสด ปลาเค็มและปลาแห้งรวมกันกว่า 15,000 ปอนด์ (กว่า 6,800 กิโลกรัม) มื้อเช้าของผู้โดยสารชั้น 1 จะได้กินปลาแฮร์ริง ปลาแซลมอน ปลาบริล ปลาแฮดดอกและปลาแอนโชวีในเมนูหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอนรมควันที่เสิร์ฟคู่กับปลาแฮร์ริงสดและปลาแฮดดอกรมควันเสิร์ฟแบบจานเย็น
ขณะที่มื้อกลางวัน ผู้โดยสารสามารถเลือกได้ระหว่างปลาแอนโชวีนอร์เวย์กับปลาซาร์ดีนสดหรือรมควัน ปลาแฮร์ริงแช่ไวน์หรือน้ำส้มสายชูก่อนจะปรุงและเสิร์ฟแบบจานเย็น รวมถึงแซลมอนมายองเนสที่เสิร์ฟแบบบุฟเฟต์ ส่วนมื้อค่ำของผู้โดยสารชั้น 1 จัดว่าหรูหรามากจากการเสิร์ฟปลาแซลมอนกับซอสมูสลีนกับแตงกวา (เหมือนกับซอสฮอลแลนด์) รวมถึงการเสิร์ฟหอยนางรมและกุ้ง
ขณะที่อาหารเช้าและอาหารค่ำของผู้โดยสารชั้น 2 จะมีปลาแฮร์ริงรมควันที่เสิร์ฟแบบจานเย็นที่เรียกกว่า ยาร์เมาท์บล็อตเตอร์ (Yarmouth Bloaters) รวมถึงปลาแฮดดอกอบเสิร์ฟกับซอสที่ปรุงจากน้ำตาลทรายแดง หัวหอม ซอสมะเขือเทศเข้มข้น มัสตาร์ดและเครื่องปรุงอีกหลายชนิด ส่วนผู้โดยสารชั้น 3 มีโอกาสได้กิน ปลาแฮร์ริงรมควันเพียงแค่วันละครั้งในมื้อเช้าเท่านั้น