ใครๆ ก็อยากให้กำเนิดแฮมเบอร์เกอร์

 
ใครๆ ก็อยากให้กำเนิดแฮมเบอร์เกอร์
.
Burger หรืออาหารประเภทเดียวกับแซนวิชชนิดนี้เกิดขึ้นมาในโลกราว 150 ปีแล้ว แม้จะมีชื่อต่างกันไปบ้าง แต่หลักๆ คือใช้เนื้อสัตว์ปรุงทำเป็นแผ่น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว หมู ปลา ไก่ และเนื้อสัตว์หลายชนิดผสมกัน ประกบด้วยขนมปังแผ่นกลม สอดไส้ด้วยผัก กินกับเครื่องปรุงอีกหลายอย่าง
แม้ทุกวันนี้ แฮมเบอร์เกอร์จะมีให้เลือกลิ้มลองกันได้ทั่วโลก ทั้งกิจการฟาสต์ฟูดรายใหญ่ระดับโลก และร้านเล็กๆ ที่คิดสูตรของตัวเองขึ้นมาแต่กลับเป็นที่ถูกอกถูกใจนักชิมจนถึงกับทำ “ลายแทง” ให้ไปเสาะแสวงหากัน (จนเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมหนึ่งของหลายคนเมื่อเดินทางไปต่างประเทศก็ว่าได้ฉ
แต่แม้จะเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก กลับมีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นปัญหาคาใจหลายคนอยู่ นั่นคือ ใครเป็นคนคิดแฮมเบอร์เกอร์ขึ้นมาคนแรก เพราะเอาเข้าจริงๆ ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดเลย แต่มีหลายคนที่พยายามอ้างว่าเมนูยอดนิยมนี้กำเนิดมาจากความคิดของตน
วันนี้ ‘นวัตกิน’ มีเรื่องราวของ 4 ผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้ให้กำเนิดแฮมเบอร์เกอร์มาฝากกันครับ
 
 
คนแรกคือ หลุยส์ ลาสเซน (Louis Lassen)
.
ชาวเดนมาร์กที่อพยพมาอยู่ที่อเมริกา เขาเป็นเจ้าของร้านาอาหารชื่อ Louis’ Lunch ที่เมืองนิวเฮเวน รัฐคอนเนตทิคัต ที่ได้เครดิตว่าเป็นคนแรกที่เริ่มขายแฮมเบอร์เกอร์กับแซนด์วิชสเต๊กในสหรัฐเมื่อปี 1900

 

ว่ากันว่าตอนแรกเมนูนี้ยังไม่มีชื่อเรียก กระทั่งกะลาสีเรือจากเมืองฮัมบูร์กของเยอรมนี เรียกเนื้อสอดไส้ขนมปังตามชื่อเมืองตัวเองว่าแฮมเบอร์เกอร์

แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นแค่ทฤษฎีครับ ขณะเดียวกันก็มีเรื่องถกเถียงกันอยู่โดยเฉพาะประเด็นที่ว่าขนมปังที่ลาสเซนใช้นั้น เป็นขนมปังที่เรียกว่า toast ที่หั่นขนมปังก้อนยาวๆ เป็นแผ่นแล้วนำไปปิ้งหรืออังไฟก่อนจะนำมาประกอบกับเนื้อวัวบด ซึ่งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าอาหารแบบที่ลาสเซนทำขึ้นมายังไม่น่าจะใช่แฮมเบอร์เกอร์ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ชาร์ลี นากรีน
.
คนต่อมาครับ ชาร์ลี นากรีน (Charlie Nagreen) แห่งเมืองเซย์มัวร์ (Seymour) รัฐวิสคอนซิน ว่ากันว่าเขาเขายแซนวิชเนื้อหมูมาตั้งแต่อายุ 15 ปี และเมื่อปี 1885 ในงานแสดงสินค้าที่เมืองดังกล่าว เขาคือคนที่ทำการเปิดตัวเมนูใหม่ที่ทำมาจาก

“เนื้อปั้นก้อนหรือมีทบอล (meatball) นำมาประกบด้วยขนมปังสองแผ่นที่ทำเลียนแบบสเต๊กฮัมบูร์ก (Hamburg steak) ที่ครอบครัวผู้อพยพชาวเยอรมันอย่างเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี”

ทำให้ในเวลาต่อมาเมนูดังกล่าวจึงมีชื่อเรียกว่า แฮมเบอร์เกอร์ชาร์ลี (Hamburger Charlie) ไปด้วย

ออสการ์ เวเยงบอร์ บิลบี
.
ขณะเดียวกัน รัฐโอกลาโฮมาก็มั่นใจมากว่าคนในพื้นที่ของตนคือคนให้กำเนิดอาหารคลาสสิกชิ้นนี้ โดยยกข้อมูลมาเปิดเผยว่า..

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 1891 ออสการ์ เวเบอร์ บิลบี (Oscar Weber Bilby) ทำตะแกรงเหล็กย่างเนื้อในสวนของเขาที่เมืองทุลสา (Tulsa) แล้วก็ลองนำเนื้อวัวแองกัสสดมาปั้นเป็นแผ่นกลมๆ จากนั้นเขาก็ทำให้มันสุกบนตะแกรงโดยเนื้อยังคงความฉ่ำน้ำไว้อยู่ ก่อนจะนำขนมปังยีสต์ก้อนกลม (yeast bun) มาหั่นแล้วประกบกับเนื้อแล้วเสิร์ฟให้ครอบครัวอและเพื่อนฝูงที่มารวมกันในงานฉลองวันชาติปีนั้น นั่นเอง

คือนอกจากจะเป็นอาหารแห่งรัฐแล้ว ยังจะให้เป็นอาหารแห่งชาติด้วย ว่างั้น..

แฟรงก์ กับ ชาร์ล เมนช์
.
อีกตำนานหนึ่งที่รู้จักกันแพร่หลายคือ แฟรงก์ กับ ชาร์ล เมนช์ (Frank & Charles Menches) โดยพวกเขาอ้างว่าในปี 1885 พวกเขาเริ่มขายแซนวิชเนื้อบดในงานแสดงสินค้าที่เมืองแฮมเบิร์ก (Hamburg) รัฐนิวยอร์ก เป็นรายแรก และปีนั้นเกิดปัญหาว่าไส้กรอกหมูที่กินขนมปังแซนวิชเกิดหมดกะทันหัน จึงต้องหาของมาแทนไปก่อน โดยซื้อเนื้อวัวบดมาทำเป็นแผ่นทอดสอดไส้ขนมปังกับผักและเครื่องปรุงซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนมาก

พร้อมกันนี้ทั้งสองยังยืนยันว่า แฮมเบอร์เกอร์ นั้นมาจากชื่อเมือง “แฮมเบิร์ก รัฐนิวยอร์ก” ไม่ใช้ “ฮัมบูร์ก” ในเยอรมนีอย่างที่เข้าใจกัน

….

ครับ ยังมีอีกหลายคนที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเมนูยอดนิยมนี้พร้อมหลักฐานจำนวนมาก แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกวันนี้แฮมเบอร์เกอร์ก็จัดเป็นหนึ่งในเมนูสุดฮิตของหลายคนไปแล้ว เพราะมันสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านแบบโฮมเมดหรือจะไปลิ้มลองรสชาติจากร้านต่างๆ ก็ไม่มีปัญหา

แถมบางร้านยังพัฒนาสูตรที่ดึงดูดความสนใจลูกค้ามากขึ้นอย่างเบอร์เกอร์เนื้อเป็ด เบอร์เกอร์สำหรับชาววีแกน (Vegan) หรือมังสวิรัติ รวมไปถึงขนมปังเบอร์เกอร์ที่มีทั้งแบบสูตรใช้แป้งไม่มีกลูเต็น หรือ ขนมปังสีแดงทำจากหัวบีทรูท สีดำจากหมึกของปลาหมึก รวมถึงขนมปังข้าวไรน์แทนข้าวสาลี ด้วยก็มี

Related Posts