นักอ่านส่วนใหญ่ทราบกันอยู่แล้วว่าทุกยุคทุกสมัย โลกเราจะมีนักเขียนจำนวนหนึ่งที่เป็นนักดื่มตัวยง ทั้งนักเขียนรุ่นใหญ่ รุ่นกลางหรือแม้แต่นักเรียนรุ่นใหม่ๆ ที่มีผลงานให้เราได้อ่านอยู่ในปัจจุบัน ว่ากันว่าแอลกอฮอล์ที่ไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของนักเขียนเหล่านี้นี่แหล่ะที่มีส่วนผลักดันเรื่องราวและสำนวนอันเป็นเอกลักษณ์ เฉียบ คม จนเป็นที่ตราตรึงของนักอ่านมาแล้วไม่น้อย
วันนี้ ‘นวัตกิน’ ขอนำคุณๆ ไปรู้จักกันนักเขียนระดับแนวหน้าของโลก 5 คนที่ในช่วงชีวิตของแต่ละคนล้วนมี “แก้วโปรด” ของตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น
เครื่องดื่มสุดรักของนักเขียนเหล่านั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์ผลงานอมตะของแต่ละคนมากน้อยแค่ไหนก็ต้องพินิจพิเคราะห์กันดู แต่ในเบื้องต้นต้องย้ำก่อนนะครับว่า บทความนี้ไม่ได้สนับสนุนให้ดื่มสุราหรือเครื่องดืมแอลกอฮอล์หนักหน่วงแต่อย่างใด เพียงแค่ดื่มกำลังพริ้มนั่นล่ะอาหารกำลังอร่อยเลยครับ
1. โมฮิโตของเฮมมิงเวย์
.
เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ (Ernest Hemingway) หรือ ปาป้าเฮมมิงเวย์ของหลายๆ คนเป็นนักเขียนที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ (The Pulitzer Prize) ในปี 1953 และในปี 1954 ยังได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมอีกด้วย ผลงานที่มีชื่อเสียงของเขามีหลายเล่มครับ แต่เล่มที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็เห็นจะได้แก่ The Old Man and the Sea (เฒ่าผจญทะเล)
แฟนๆ ผลงานของเฮมมิงเวย์ทราบดีว่านักเขียนรุ่นใหญ่คนนี้โปรดปรานการดื่ม พอๆ กับการล่าสัตว์และการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ครั้งหนึ่งเฮมมิงเวย์เคยกล่าวไว้ว่า
“ฉันดื่มเพื่อทำให้คนอื่นน่าสนใจยิ่งขึ้น”
ส่วนเครื่องดื่มที่ปาป้านิยมเป็นพิเศษนั้น นอกจากเครื่องดื่มค็อกเทลไดกิรี (Daiquiri) ที่ใช้เหล้ารัมฮาวานา 3 ปีขึ้นไป ผสมกับเหล้าหวานมาราชิโน (Marachino) และส่วนผสมอื่นๆ เขย่าและเสิร์ฟในแก้วค็อกเทลที่เคลือบปากไว้ด้วยเกลือเม็ดละเอียดแล้ว โมฮิโต (Mojito) สูตรของบาร์ La Bodeguita del Medio ในย่านเมืองเก่าของกรุงฮาวานา ประเทศคิวบา นับเป็นเครื่องดื่มที่อยู่ในใจปาป้าตลอดเวลา โดยโมฮิโตที่บาร์แห่งนั้นมีรสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวพร้อมความหอมของใบมินต์ที่ทำให้ปาป้ารู้สึกสดชื่นได้เสมอเลย
2.ดื่มระหว่างเขียนไปกับมายา แองเจลู
.
มายา แองเจลู (Maya Angelou) กวีและนักเขียนหญิงผู้มีผลงานทรงพลังอย่าง I know why the cage bird sing และงานเขียนอื่นๆ ที่เป็นตัวแทนของคนผิวสี โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ และการต่อต้านการเหยียดผิวเหยียดเพศ แม้จะมีความพยายามทำให้ผลงานของเธอกลายเป็นหนังสือต้องห้าม แต่ในที่สุดแล้ว ผลงานเหล่านั้นยิ่งกลายเป็นที่รู้จักและมีการนำไปใช้ในเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาในสถานศึกษาหลายแห่งจนปัจจุบัน
ว่ากันว่าเธอนิยมดื่มเหล้าเชอร์รี (sherry) รสชาติหอมหวานระหว่างทำงานเขียนไปด้วย บนโต๊ะทำงานในห้องของโรงแรมที่เธอเช่าไว้เขียนงานนั้น นอกจากจะมีกระดาษ และอุปกรณ์เครื่องเขียนต่างๆ แล้ว จะต้องมีขวดเหล้าเชอร์รีและแก้ววางไว้ด้วยเสมอ แม้โรงแรมจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า cocktail hour แต่ด้วยความที่เธอไม่อยากรอก็เลยจัดหามาไว้ใกล้ๆ ตัวพร้อมให้เหตุผลว่า
“ฉันจะดื่มแก้วแรกตั้งแต่ประมาณ 06.15 น. เมื่อตอนตื่นขึ้นมาเลยก็ได้ แต่ปกติแล้ว ฉันจะดื่มเหล้าเชอร์รีแก้วแรกของวันก็ประมาณ 11.00 น.”
3.เครื่องดื่มสุดเลิฟของผู้กำเนิด 007
.
แฟนๆ นวนิยายสายลับอมตะอย่าง “เจมส์ บอนด์ 007” ต่างก็ทราบดีว่า เอียน แลนแคสเตอร์ เฟลมมิง (Ian Lancaster Fleming) หรือเอียน เฟลมมิง นักเขียนอังกฤษผู้ให้กำเนิดนิยายชื่อดังเรื่องนี้เคยเป็นนักข่าวของศูนย์ข่าวรอยเตอร์ที่ถูกส่งเข้าไปทำข่าวการจารกรรมในรัสเซียอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะกลายเป็นเรื่องราวของ 007 สายลับอังกฤษที่โด่งดังในเวลาต่อมา
เฟลมมิงจัดได้ว่าเป็นนักดื่มตัวยงเลยทีเดียว ว่ากันว่าเขาดื่มเหล้ายินวันละขวดระหว่างที่เขียนหนังสือ เครื่องดื่มที่เขาชื่นชอบมาก คือ ยิน (gin) ซึ่งเป็นสุราที่กลั่นมาจากเมล็ดข้าว แล้วปรุงแต่งด้วยสมุนไพรหลายชนิดและลูกสนจูนิเปอร์ สีใสเหมือนเหล้าวอดกาแต่กลิ่นและรสชาติชัดเจนกว่า โดยเฉพาะเมื่อนำยินมาผสมเป็นเครื่องดื่มคอกเทลประจำตัวอย่าง “มาร์ตินี” (Martini) ที่มีส่วนผสมหลักเป็นยิน ตามมาด้วยเหล้าเวอร์มุธ (Vermouth) กับน้ำ เขย่าให้เข้ากัน ที่สำคัญถ้าจะให้ถูกหลัก มาร์ตินีต้องเสิร์ฟในแก้วทรงสามเหลี่ยมเท่านั้น
4.ราชานิยายสยองขวัญกับบรั่นดี
.
เชื่อว่าหลายคนต้องเคยได้ยินชื่อ เอดการ์ แอลลัน โพ บรรณาธิการ กวี นักวิจารณ์และนักเขียนนิยายรหัสคดีกับเรื่องสยองขวัญมาบ้างแล้ว
โพเป็นนักเขียนคนแรกๆ ที่เขียนเรื่องสั้น และเป็นตำนานแห่งอัจฉริยะของ ‘Dark Romanticism’ และยังเป็นผู้ริเริ่มนิยายแนวสืบสวนสอบสวน รวมถึงยังเป็นผู้ให้กำเนิดแนวทางของนิยายวิทยาศาสตร์เมื่อร้อยกว่าปีก่อนอีกด้วย ตลอดชีวิตของโพ เขาถูกรุมล้อมด้วยความตายและโศกนาฏกรรมนานัปการ แม้แต่ความตายของตัวเขาเองในวัย 40 ปี ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้
ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่นั้น เขาดื่มหนักมาก จนว่ากันว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาเสียชีวิตก็น่าจะมาอาการติดสุรา (แต่ก็ยังมีข้อสันนิษฐานอื่นอีกอย่างโรคพิษสุนัขบ้า หรือถูกอันธพาลทำร้ายร่างกาย) เขานิยมดื่มบรั่นดียี่ห้อ Benny Haven เป็นชีวิตจิตใจ และหากต้องดื่มคอกเทลไม่ว่าสูตรไหน โพนิยมเติมโอปิแอต (opiate) ซึ่งสกัดจากเมล็ดฝิ่นลงไปด้วย
เชื่อกันว่าโอปิแอตมีฤทธิ์เหมือนฝิ่นและมอร์ฟีนที่ช่วยให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มและเป็นสุขซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในเวลานั้น นอกจากนี้ครอบครัวของเขายังมี “เอ๊กน็อก” (eggnog) สูตรลับที่นิยมทำกันในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ซึ่งมักใส่บรั่นดี วิสกี้หรือเหล้ารัมลงไปทำให้ร่างกายอบอุ่นอีกด้วย
5. แจ็ค” วิสกีคู่ในนักเขียนโนเบล
.
พูดถึงวิลเลียม ฟอกเนอร์ (William Faulkner) นักเขียนนวนิยายและเรื่องสั้นคนสำคัญชาวอเมริกัน คนไทยอาจไม่คุ้นชื่อเขาเท่าไหร่ แต่นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี 1949 คนนี้“แจ็ค” วิสกีคู่ในนักเขียนโนเบล
พูดถึงวิลเลียม ฟอกเนอร์ (William Faulkner) นักเขียนนวนิยายและเรื่องสั้นคนสำคัญชาวอเมริกัน คนไทยอาจไม่คุ้นชื่อเขาเท่าไหร่ แต่นักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี 1949 คนนี้มีอิทธิพลต่อนักเขียนรุ่นต่อมาๆ อีกไม่น้อยไม่ว่าจะเป็นกาบริเอล การ์ซิอา มาร์เกซ ฮาร์เปอร์ ลี และสตีเฟน คิง
งานเขียนของฟอกเนอร์นิยมใช้ฉากที่บ้านเกิดของเขาในรัฐมิสซิสซิปปีเหมือนกับนักเขียนจากรัฐทางใต้อีกหลายคน อย่างมาร์ ทเวน ทรูแมน คาโพตี แฟลนเนอร์รี โอคอนเนอร์และเทนเนสซี วิลเลียม ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะชื่นชมวิสกี้จากรัฐใกล้เคียงอย่างเทนเนสซี (Tennessee) คือ แจ็ค แดนเนียล ที่นิยามตัวเองว่าไม่ใช่ทั้งสก็อตวิสกี้และเบอร์เบิน แต่เทนเนสซีวิสกี้ที่ใช้การกรองผ่านถ่านไม้ชูการ์เมเปิ้ลก่อนจะหมักในถังไม้โอ๊กขาวเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี จึงมีกลิ่นและรสชาติที่กลายเป็นตำนานของวิสกี้อเมริกันที่ถูกใจนักเขียนผู้นี้รวมถึงนักดื่มจำนวนมากทั่วโลกมาจนปัจจุบัน
แม้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจมีส่วนช่วยกระตุ้นให้การไหลเวียนของเลือดไปสู่สมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาจจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ความคิดสร้างสรรค์ นักเขียนชื่อดังหลายคนชื่นชอบการดื่มเป็นชีวิตจิตใจ เพราะช่วยทำให้เขียนงานได้ไหลลื่น แต่การดื่มที่บ่อยและมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียหลายอย่างตามมาโดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพ ที่สำคัญก็อย่างที่บอกไปล่ะครับว่า บทความนี้ไม่ได้สนับสนุนให้ดื่มสุราหรือเครื่องดืมแอลกอฮอล์หนักหน่วง แต่อย่างใด เพียงแค่ดื่มสวยๆ เอาพอเมาพริ้มๆ อาการกำลังอร่อยครับ