[ Cocktail จากโลกอดีต ] สูตรที่คุณก็ทำเองที่บ้านได้

[ Cocktail จากโลกอดีต ] สูตรที่คุณก็ทำเองที่บ้านได้
.
▪น้ำนมเสือดำ Cocktail จากกองทหารสเปนปี1920 ▪Tepache ค็อกเทลโบราณจากชนพื้นเมืองชาวเอซแทค
▪Grasshopper สูตรชนะรางวับจากนิวยอร์ค ปี1919
▪Lunch box สูตรบังเอิญจากโอกลาโฮมา 1990
เทศกาลวันหยุดปีนี้ หลายคนอาจเริ่มกักตัวเองและไม่ค่อยอยากออกไปเที่ยวนอกบ้านซักเท่าไหร่ แถมหน้าหนาวบ้านเรานั้นก็มีเอกลักษณ์ที่อากาศร้อนอบอ้าวเสียด้วย ค่ำคืนชวนเบื่อแบบนี้จะดีแค่ไหนครับหากว่าเรา สามารถปรุงเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรดังดื่มให้เย็นชื่นใจเองสักแก้วโดยไม่ต้องเดินทางออกนอกบ้าน
ดังนั้น วันนี้ ‘นวัตกิน’ g]pมีเรื่องราวของค็อกเทล 4 สูตร และเรื่องราวที่น่าสนใจ พร้อมส่วนผสม (ที่บางท่านอาจคุ้นเคยดีอยู่แล้ว) มาเล่าให้ฟังครับ เตรียมแก้ว น้ำแข็ง ส่วนผสม แล้วไปพบกับ 4 สูตรค็อกเทลที่คุณทำเองได้ที่บ้านกันเลย

แพนเทอร์มิลค์ (Panther Milk)
.
ค็อกเทลจากเมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน สูตรนี้อายุราวร้อยปีมาแล้ว มีชื่อเป็นภาษาสเปนว่า Leche de Pantera ซึ่งตรงๆว่า น้ำนมเสือดำ เกิดขึ้นในหน่วยทหารสเปนในทศวรรษ 1920 ด้วยหลักการที่ว่าต้องเป็นค็อกเทลที่ผสมได้ง่ายและรวดเร็ว ใช้ส่วนผสมที่หาได้สะดวกอย่างยิน (gin) นมข้นและน้ำ เชื่อกันว่าเมื่อดื่มแล้วจะทำให้อารมณ์ของเหล่าทหารเปลี่ยนจากอ่อนล้าเป็นคึกคักได้อย่างน่าอัศจรรย์

‘น้ำนมเสือดำ’ หายไปจากการรับรู้ของผู้คนอยู่หลายสิบปี จนกระทั่งทหารผ่านศึกสเปนคนหนึ่งปรับปรุงสูตรและเผยแพร่ในบาร์แห่งหนึ่งที่เมืองบาร์เซโลนาราวปี 1975 หลังจากลองผิดลองดูอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็ได้ค็อกเทลรสชาติดีที่ได้สีชมพูหวานๆ จากน้ำเชื่อมผลทับทิมขึ้นมา ดูเผินๆ ก็คล้ายนมเย็นบ้านเราเหมือนกันนะครับ

คุณสามารถผสม ‘น้ำนมเสือดำ’ ได้เองที่บ้าน
โดยผสมยิน 1 ออนซ์ (29.57 มิลลิลิตร)
เหล้ารัมขาว 1 ออนซ์
นมข้นหวาน 1 ออนซ์
นมจืด 5 ออนซ์และน้ำเชื่อมจากผลทับทิม 1 ช้อนชา เขย่ากับน้ำแข็ง เทใส่แก้ว
โรยหน้าด้วยอบเชย แล้วนำไปเสิร์ฟ

ลันช์บ็อกซ์ (Lunchbox)
.
ว่ากันว่าค็อกเทลสูตรนี้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญในทศวรรษ 1990 เมื่อเอ็ดนา สก็อต (Edna Scott) เจ้าของบาร์ในเมืองโอกลาโฮมาซิตี รัฐโอกลาโฮมา สหรัฐ ผสมเครื่องดื่มผิดพลาด แต่กลับเป็นเรื่องดีเมื่อลูกค้าชื่นชอบจนกลายเป็น ‘ซิกเนเจอร์’ ของร้านและของเมืองไปพร้อมๆ กัน

แม้ทุกวันนี้ ‘ลันช์บ็อกซ์’ จะมีส่วนผสมที่เปลี่ยนไปบ้าง แต่วันนี้เพจนวัตกินนำค็อกเทลสูตรดัั้งเดิมมาให้ลองทำกันดู โดยวางแก้วเล็กๆ ที่ใส่เหล้าหวานอาร์มาเร็ตโต (Armaretto) ของอิตาลีลงในเหยือกที่มีเบียร์แช่เย็นจัดจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งหรือที่เรียกว่า ‘เบียร์วุ้น’ เคล็ดลับอยู่ที่ในเหยือกนั้น ให้ใส่เบียร์แค่ ¾ ก็พอครับ เผื่อพื้นที่ไว้ให้อาร์มาเร็ตโตด้วย

สูตรดั้งเดิมเขาใช้เบียร์คอร์ไลท์ (Coor Light) แต่สำหรับบ้านเรา จะเลือกใช้เบียร์ยี่ห้อไหนก็ได้ตามชอบ จากนั้นเมื่อเทน้ำส้มเป็นการปิดท้าย แค่นี้ก็ได้ ‘กล่องอาหารเที่ยง’ ที่จะทำให้วันร้อนอบอ้าวของคุณสดชื่นขึ้นมาทันทีแล้ว

กราสฮ็อปเปอร์ (Grasshopper)
.
ค็อกเทลสีเขียวสดใสนี้มีความเป็นมาไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แม้จะทำขึ้นด้วยส่วนผสมไม่กี่อย่างด้วยวิธีการผสมง่ายๆ แต่เจ้า “จิ้งหรีด” แก้วนี้เคยคว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดค็อกเทลในนครนิวยอร์กเมื่อปี 1919 มาแล้ว

ต้นกำเนิดของค็อกเทลกราสฮ็อปเปอร์อยู่ที่เมืองนิวออร์ลีน รัฐลุยเซียนา แม้ในช่วงที่มีการออกกฎห้ามผลิต นำเข้า ขนส่งและการขายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสุราในสหรัฐ จะต้องลักลอบทำและดื่มกันอยู่พักใหญ่ แต่เมื่อมีการผ่อนคลายกฎดังกล่าว ค็อกเทลนี้ก็กลับมาเป็นที่นิยมแพร่หลาย และที่น่าสนใจคือ รสชาติของมันยังเป็นต้นแบบให้กับขนม ไอศกรีม คุกกี้อีกหลายยี่ห้อที่เด็กๆ โปรดปรานอีกด้วย

กราสฮ็อปเปอร์ทำขึ้นจากส่วนผสมที่แสนจะธรรมดา คือ นำเหล้าหวานที่ผลิตจากโกโก้และวานิลา (crème de cacao) เหล้าหวานกลิ่นมินท์ (crème de menthe) และครีมเข้มข้น ในปริมาณเท่าๆ กันใส่ในกระบอกแล้วเขย่ากับน้ำแข็ง เสิร์ฟในแก้วมาร์ตินี แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

เตปาเช (Tepache)
.
เม็กซิโกจัดเป็นหมุดหมายอีกแห่งหนึ่งของโลก ที่มักจะมีนักดื่มแวะเวียนไปจิบค็อกเทลต้นตำรับสูตรต่างๆ อยู่เป็นประจำ หนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมก็มีเตปาเชที่มีต้นกำเนิดจากการหมักน้ำสับปะรดให้เป็นแอลกอฮอล์อ่อนๆ

เชื่อกันว่าชาวพื้นเมืองเผ่าแอซเทครู้จักทำเครื่องดื่มแบบนี้มานานแล้ว อีกด้านหนึ่งก็ว่ากันว่ามีต้นกำเนิดมาจากกาที่นักผจญภัยชาวสเปนในโลกใหม่ทดลองนำสับปะรดมาทำเป็น “ไซเดอร์” แต่ไม่ว่าใครจะคิดขึ้นมา ทุกวันนี้เตปาเชเป็นเครื่องดื่มรสผลไม้ที่มีขายทั่วไปจนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์แบบเม็กซิกันไปแล้ว

กรรมวิธีทำเตปาเชก็ไม่ยากอะไรเลยครับ

1.เริ่มจากนำน้ำตาลแดง (brown sugar) 1 ถ้วย เทลงในน้ำอุ่น 2 ควอร์ต หรือประมาณ 2 ลิตร

2.ใส่เปลือกและแกนสับปะรดงอมๆ ลงไป

3.ตามด้วยอบเชย 1แท่งกับกานพลู (clove) 3 ดอก ผสมให้เข้ากัน เทลงในเหยือกใหญ่ๆ ปิดปากเหยือกด้วยผ้าขาวบาง

4.ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงหรือจนกว่าฟองที่เกิดขึ้จะลอยขึ้นมารวมกันอยู่เหนือส่วนที่เป็นของเหลว

5.ที่สำคัญคือ ห้ามใส่ในภาชนะหรือขวดที่ปิดฝาเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดการระเบิดจากแรงอัดของก๊าซที่เกิดขึ้นระหว่างการหมักได้

6.จากนั้นกรองเอาแต่น้ำชิมดู ถ้าชอบหวานก็เติมน้ำตาลได้อีก แล้วนำไปเสิร์ฟกับน้ำแข็งก็จะได้เตปาเชหอมหวานเย็นชื่นใจครับ

Related Posts