
.
ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรขึ้นบนโลกใบนี้ สิ่งที่ทำให้เราอุ่นใจได้เสมอก็คืออาหารกระป๋อง เพราะเป็นของกินที่เก็บไว้ได้ยาวนานโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น แค่เปิดกระป๋องก็กินได้ทันที แถมยังมีให้เลือกหลายรสชาติ สามารถกินหมุนเวียนไปได้โดยไม่รู้สึกจำเจ
อาหารกระป๋องคือนวัตกินเปลี่ยนโลกที่อยู่คู่มวลมนุษยชาติมานานกว่า 200 ปี และนี่คือประวัติศาสตร์ของอาหารมื้อล่าสุดของหลายๆ คนในช่วงนี้ครับ
▪เริ่มต้นในขวดโหล
ต้นกำเนิดของอาหารกระป๋องต้องย้อนไปไกลถึงต้นศตวรรษที่ 17 ซึ่งเป็นยุคที่จักรพรรดินโปเลียนของฝรั่งเศสกำลังทำสงครามทั่วยุโรป รัฐบาลฝรั่งเศสในเวลานั้นได้ตั้งรางวัลสูงถึง 12,000 ฟรังก์ (เทียบได้กับเงินหลายสิบล้านบาทในปัจจุบัน) สำหรับผู้คิดค้นนวัตกรรมถนอมอาหารต้นทุนถูกและมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปใช้ผลิตเสบียงให้กองทัพ คนที่คว้าเงินรางวัลก้อนโตได้สำเร็จก็คือนิโคลาส์ อัปแปร์ (Nicolas Appert) ผู้เป็นพ่อครัวทำขนมและนักประดิษฐ์
นิโคลาส์สังเกตเห็นว่า ถ้าปรุงอาหารในขวดโหลแล้วปิดฝาให้สนิท อาหารจะไม่เน่าเสียจนกว่าฝาขวดจะถูกเปิด เขาจึงได้พัฒนาการวิธีเก็บรักษาอาหารในขวดโหลแก้วขึ้น ทั้งที่ผู้คนในยุคนั้นยังไม่รู้จักเชื้อโรคที่เป็นตัวการทำให้อาหารเน่าเสียเสียด้วยซ้ำ
แต่ด้วยขั้นตอนการผลิตที่ใช้เวลานาน และความยากลำบากในการขนขวดโหลแก้วไปยังแนวหน้า ทำให้นวัตกินของนิโคลาส์แทบไม่เคยถูกนำไปใช้จริงในสงครามเลย
จากขวดแก้วสู่กระป๋อง
เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ฟิลิปป์ เดอ จิราร์ (Philippe de Girard) นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศสอีกคนหนึ่ง ได้นำแนวคิดของนิโคลาส์ไปพัฒนาต่อ เขาเปลี่ยนภาชนะจากขวดแก้วมาเป็นกระป๋องดีบุกซึ่งขนส่งได้ง่ายกว่า ทำให้เริ่มมีผู้สนใจทำธุรกิจผลิตอาหารกระป๋อง
ฟิลิปป์ได้ขายสิทธิบัตรให้กับพ่อค้าชาวอังกฤษ และอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องก็ได้เริ่มต้นขึ้นในประเทศอังกฤษเป็นที่แรก
แต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตยังคงสูงเกินที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไป ผู้สั่งซื้ออาหารกระป๋องรายใหญ่ในยุคนั้นจึงเป็นกองทัพบกและกองทัพเรืองของอังกฤษ รวมถึงเหล่าเศรษฐีที่อวดความร่ำรวยด้วยการเปิดอาหารกระป๋องเลี้ยงแขกในงานเลี้ยง เรียกว่าคนทั่วไปอย่างเรานั้นต้องรอกันจนถึงปลายศตวรรษที่ 19 อาหารกระป๋องจึงมีราคาถูกลงจนคนทั่วไปเข้าถึงได้อย่างในทุกวันนี้
▪ที่เปิดกระป๋อง
ปัญหาใหญ่ของอาหารกระป๋องในยุคแรกก็คือการเปิดกระป๋อง อุปกรณ์ยอดนิยมสำหรับการเปิดกระป๋องในสมัยนั้นคือฆ้อนกับลิ่ม ส่วนทหารแนวหน้าผู้ไม่มีเครื่องมือติดตัวมากนัก ก็จะใช้ดาบปลายปืนในการเปิด
ที่เปิดกระป๋องชิ้นแรกของโลกปรากฏตัวในปี 1855 โดยเป็นผลงานของโรเบิร์ต์ เยตส์ ช่างทำเครื่องมือแพทย์ชาวอังกฤษ เขาได้ออกแบบที่อุปกรณ์รูปร่างคล้ายก้ามปูปลายแหลมพร้อมด้ามจับ ซึ่งเป็นต้นแบบของที่เปิดกระป๋องรุ่นคลาสสิก ที่ยังพอเหลือให้เห็นอยู่บ้างตามร้านกาแฟโบราณ
หลังจากนั้นก็ได้ผู้คิดค้นที่เปิดกระป๋องแบบต่างๆ ขึ้นมามากมาย ทั้งแบบหมุนที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกที่เปิดกระป๋องทิ่มมือ และแบบไฟฟ้าที่เปิดกระป๋องได้โดยไม่ต้องเหนื่อยแรง
▪จุดจบของที่เปิดกระป๋อง
แต่ทุกวันนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้ที่เปิดกระป๋องกันแล้ว เพราะในปี 1959 วิศวกรชาวอเมริกันชื่อเออร์มอล เฟรซได้ไปปิกนิกกับครอบครัว แต่เขาลืมเอาที่เปิดกระป๋องเบียร์ไปด้วย เออร์มัลจึงเกิดแรงบันดาลใจในการออกแบบกระป๋องเครื่องดื่มแบบใหม่ที่เปิดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นๆ มาช่วย
ในที่สุดเขาก็ได้ประดิษฐ์วงแหวนสำหรับดึงเพื่อเปิดกระป๋องเครื่องดื่ม ที่บ้านเรานิยมเรียกว่า “หูกระป๋อง” หรือ “ห่วงกระป๋อง” และจดสิทธิบัตรใน 1963
วงแหวนของเออร์มอลไม่เพียงพลิกวงการเครื่องดื่ม ผู้ผลิตอาหารกระป๋องยังนำแนวคิดของเออร์มอลมาประยุกต์ใช้ด้วย อาหารกระป๋องในปัจจุบันจึงมาพร้อมวงแหวนที่แค่ยกขึ้นแล้วดึง ก็จะสามารถเปิดกระป๋องอาหารได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้ที่เปิดกระป๋องกลายเป็นของที่ไม่ต้องมีในครัวอีกต่อไป
และนี่ก็คือที่มาอาหารกระป๋อง ของกินที่ดูง่ายๆ แต่มีเรื่องราวของการประดิษฐ์คิดค้นมากมายซ่อนอยู่ข้างในนั้น