วันนี้นวัตกินจึงมีเรื่องของของกินเล่นม 5 อย่างมาเล่าให้ฟังครับ ทั้งปูทอดเคลือบน้ำตาลของญี่ปุ่น แมงมุมยักษ์ทอดจากกัมพูชา เนื้อเค็มแอฟริกา ปลาเค็มรัสเซีย ปิดท้ายด้วยเนยถั่วทอดจากอิสราเอล ทั้งหมดเสิร์ฟพร้อมเรื่องราวที่จะทำให้ของกินเล่นกลายเป็นของกินจริงจังขึ้นมา
มีคนเคยบอกว่า นอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว คนเรายังกินของขบเคี้ยวหรือสแน็กต่างๆ ตลอดเวลา หนักบ้าง เบาบ้าง ตามโอกาส นอกจากประทังความหิวโหยและลดความเครียดจากอาการ “โมโหหิว” อีกด้วย
แต่ทราบไหมครับว่านอกจากมันฝรั่งทอดแผ่นบางๆ ข้าวโพดคั่วหอมๆ ขนมแคร็กเกอร์กรอบๆ ที่ทำให้อดใจไม่ไหวกันมามากต่อมาแล้ว โลกเรายังมีของขบเคี้ยวอีกมากที่จะว่าแปลกก็แปลก แต่เรื่องราวของอาหารเหล่านี้นับว่าน่าสนใจอีกมาก
วันนี้ นวัตกินจะพาคุณๆ ไปรู้จักกันครับ
1. คันนิโกะ ปูเชื่อมจากแดนอาทิตย์อุทัย
บ้านเรามีปูกะตอยตัวเล็กๆ ทอดกรอบๆ เคี้ยวเพลินๆ ได้ทั้งตัว ที่แดนปลาดิบเขาก็มีคานนิโกะ (kanniko) แต่ปรุงได้ล้ำกว่าด้วยการทอดเจ้าปูตัวเล็กๆ ขนาดเท่าหัวแม่มือนี้จนกรอบแล้วนำไปคลุกกับน้ำเชื่อมให้เคลือบปูจนทั่วให้รสชาติอร่อยจนคนที่นั่นชอบกินกันมากมีวางขายตามร้านค้าแทบทุกแห่ง
คอเบียร์ญี่ปุ่นถึงกับบอกว่าในบรรดากับแกล้มกรุบๆ กรอบๆ เค็มๆ มันๆ นั้น จะขาดปูเชื่อมคันนิโกะนี้ไม่ได้เลย ใครเคยชิมช่วยบอกทีนะครับว่า พอจะสู้กับปูกะตอยทอดกรอบบ้านเราที่ว่ากันว่า “กรอบจนหูลั่น” ได้หรือเปล่า
2. แมงมุมทอดแห่งกัมพูชา
เห็นตั๊กแตน จิ้งหรีด หนอนไม้ไผ่หรือรถด่วนและอีกสารพัดแมลงทอดตามตลาดนัดแล้วก็อดคิดว่าพวกมันอาจสูญพันธุ์ในไม่ช้าได้ (ทำเป็นเล่นไป) หากHomo Spaien Sapiens อย่างพวกเรายังไม่เลิกกินไม่เลือกแบบนี้
แต่ต่อให้ลดละเลิกของแปลกกันไปเท่าไหร่ คาดว่าแมงมุมทอดน่าจะยังคงยืนหยัดอยู่ได้ เพราะบรรดาผู้นิยมเมนูสแนกเปิบพิสดาร นั้นเขายกให้แมงมุมทอดของกัมพูชาเป็นที่หนึ่ง ครับ
แมงมุมสีดำตัวใหญ่ ขุดรูอยู่บนพื้นดิน หรือที่บ้านเราเรียกว่าตัว “บึ้ง” นั่นแหล่ะ พอเข้าต้นฤดูฝนผู้คนว่างจากทำนาก็ออกล่าแมงมุมยักษ์กน จับได้แล้วก็หักเขี้ยว นำ “เขี้ยว” แยกไปขายเป็นยาแผนโบราณ ก่อนจะนำส่วนตัวที่เหลือลงทอดในน้ำมันร้อนจัดจนกรอบ ปรุงรสให้เค็มๆ หวานๆ หอมกลิ่นซุปผงโชยเตะจมูก..สูตรง่ายๆ แบบนี้นี่แหละครับที่ครองใจคนพันธ์เปิบพิสดาร
3. บิลตอง สแนกรวมมิตรเนื้อจากแอฟริกา
ในทีแรกเมื่อเจอบิลตอง ผมเลิกคิ้วแล้วนึกในใจว่า “อ้าว แล้วมันต่างอะไรกับเนื้อเค็มแดดเดียว แกล้มเบียร์บ้านเรา” แต่พอได้ทำความรู้จักก็รู้ว่ามันไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ
เพราะ บิลตอง (biltong) ของแอฟริกาใต้นั้นทำจากเนื้อสัตว์มากมายหลายชนิด ทั้งเนื้อวัว เนื้อนกกระจอกเทศ เนื้อละมั่งสปริงบ็อก (ที่เป็นญาติกับตัวแอนติโลป) และที่แปลกที่สุดเห็นจะเป็นเนื้อฉลามด้วย (ฉลามนี่ เขาไม่ได้กินแค่หูหรือครีบเหมือนบางแห่งนะ)
โดยชาวแอฟริกันจะนำเนื้อสัตว์รวมมิตรพวกนี้มาหมักกับเครื่องเทศ นำไปตากแห้งตามสไตล์การถนอมอาหาร แล้วก็สามารถเก็บไว้กินได้นานๆ ส่วนเมื่อนำมากินนั้น ก็จะมีทั้งนำไปปิ้งหรือทอดแบบบ้านเรา เป็นการทานเล่นๆ แบบแสน็ก
มากกว่านั้น บิลตองยังนำมาทำเป็นอาหารมื้อก็ได้ด้วย เช่น บางเมนูจะนำบิลติงมาหั่นเป็นชิ้นๆ เคี่ยวเป็น “สตูว์บิลตอง” เป็นอาหารทานเอาอิ่มที่ว่ากันว่ามีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นมาก จนใครได้ชิมแล้วต้องกวาดน้ำกันจนหยุดสุดท้าย
บิลตองแห่งแอฟริกานี้ นับเป็นสินค้าส่งออกที่ขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของแอฟริกาชนิดหนึ่งครับ เรียกว่าหาสั่งซื้อทานกันได้ไม่น่ายากเท่าไหร่ครับ (แต่ค่าส่งอาจจะหนักหน่อยนะ)
4. โวบลา ปลาเค็มรัสเซียคู่ใจคอเบียร์
รัสเซียไม่ได้มีดีแค่เครื่องดื่มแรงๆ อย่างวอดก้า คาเวียร์ ซุปโบรช์ (borshch) หรือข้าวอบพิลาฟ (pilaf) แบบเอเชียกลาง เท่านั้น แต่ชาวรัสเซียนยังมีของว่างหรือ “สแนก” ที่นักดื่มทั่วโลกตั้งใจว่าจะต้องชิมให้ได้สักครั้งในชีวิต นั่นคือ โวบลา (vobla)
ชื่อ “โวบลา” นี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนชาวรัสเซียนจะใช้เรียกปลาเค็มที่ทำจากปลาโรช (roach) จากชายฝั่งทะเลแคสเปียน เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ ปลาน้ำจืดอื่นๆ ที่ทำเค็มตากแห้งก็เรียกรวมๆ ว่าโวบลาไปด้วย
โวลบลานั้นเป็นแสน็กแกล้มเครื่องดื่มโดยเฉพาะครับ คนรัสเซียชอบกินโวบลากับเบียร์มากจนถึงกับมีคำพูดว่า “ถ้าบอกว่าคุณเป็นรัสเซีย แต่ไม่ชอบโวบลากับเบียร์ คุณก็ไม่ใช่รัสเซียหรอก” (ว่าเข้าไปนั่น)
ว่ากันว่า เมื่อก่อนปลาเค็มสูตรดั้งเดิมแบบนี้จะห่อด้วยหนังสือพิมพ์ เวลากินทีก็จะขนลุกๆ หน่อย แต่เดี๋ยวนี้ผู้ผลิตเลือกเอาใจคอเบียร์ทั่วโลกด้วยกรรมวิธีสะอาด ทันสมัย ในแพ็กเกจสวยงาม น่าลองหามาชิมสักตัวครับ
5. Bamba เนยถั่วทอดยอดฮิตอิสราเอล
เนยถั่ว (peanut butter) ของชอบของหลายๆ คนนั้นมักจะเอาไปทาขนมปัง ทำคุ้กกี้ ทำซอสพาสต้า หรือแม้แต่กินเปล่าๆ ก็อร่อยใช่มั้ยครับ แต่ที่อิสราเอลนั้นเขามันนำไปทอดแล้วทำเป็นแสน็กขายจนกลายเป็นของขบเคี้ยวยอดฮิตไปทั่ว ทำให้ทุกวันนี้มีธุรกิจผลิตบัมบาหรือเนยถั่วทอดมากมายทำออกมาวางจำหน่าย
ดูเผินๆ เจ้าเนยถั่วทอดนี้ รูปร่างก็ละม้ายคล้ายไปทางปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ กรอบๆ ที่กินกับเต้าฮวยบ้านเรา แต่เนยถั่วทอดอ้วนๆ ป้อมๆ นี้ จะว่ากรอบก็ไม่กรอบ แต่ก็ไม่นิ่มเสียทีเดียว รสชาติไม่หวาน หลายเสียงบอกว่าหนักไปทางรสเค็มเสียมากด้วย
แต่ยังไงก็ตาม เสน่ห์ของบัมบาที่ยังมีอยู่เสมอก็คือรสชาติและความเหนียวแบบติดฟันเหมือนเนยถั่วในขวดที่เราคุ้นเคยนั่นเอง จนทำให้พอได้กินคำหนึ่งแล้วต้องมีคำต่อๆ ไป เรียกว่าเหมาะที่จะใช้แทนป๊อปคอร์นของฝรั่งเวลาชมภาพยนตร์
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า สวัสดีครับ